ประเภทของกราฟและกรอบเวลา

การรู้จักประเภทของกราฟและองค์ประกอบต่าง ๆ จะช่วยให้คุณทำการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหาจุดเข้าคำสั่งเทรดได้แม่นยำขึ้น

ประเภทของกราฟ

Olymptrade ให้บริการกราฟ 4 ประเภท คุณสามารถเปลี่ยนประเภทกราฟที่ใช้งานได้ในหน้าต่างกราฟ

กราฟหรือแผนภูมิพื้นที่ให้ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน จริง ๆ แล้วมันคือกราฟเส้นที่พื้นที่ด้านล่างเป็นสีทึบ สำหรับมือใหม่ แผนภูมิพื้นที่ช่วยให้เข้าใจแนวโน้มโดยรวมอย่างง่ายขึ้น แต่ยังขาดรายละเอียดข้อมูล เช่น ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาที่แสดงผล

กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นประกอบด้วยสี่เหลี่ยมแนวตั้งที่เรียกว่า แท่งเทียน แต่ละแท่งเทียนแสดงถึงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่เลือก เช่น ในกราฟ 5 นาที แต่ละแท่งเทียนจะแสดงถึงพฤติกรรมราคาใน 5 นาทีนั้น ๆ "ลำตัว" (ส่วนสีทึบ) แสดงถึงราคาเปิดและราคาปิด ในขณะที่ "ไส้เทียน" (เส้น) แสดงถึงราคาสูงสุดและต่ำสุด หากราคาขยับขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง แท่งเทียนจะเป็นสีเขียวในขณะที่หากราคาขยับลง แท่งเทียนจะเป็นสีแดง

กราฟแท่งเทียนสะดวกสำหรับการวิเคราะห์จากภาพ วิธีนี้ช่วยในการหาจุดกลับตัวในตลาดหรือความต่อเนื่องของแนวโน้ม และเป็นส่วนหนึ่งในหลายกลยุทธ์การเทรด

กราฟ Heikin Ashi มีแท่งเทียนที่ดัดแปลงใหม่ โดยเฉลี่ยข้อมูลราคาเพื่อแสดงผลแนวโน้มที่เรียบขึ้น แม้ว่ากราฟ Heikin Ashi จะช่วยให้สังเกตแนวโน้มได้ง่ายขึ้น การแสดงผลข้อมูลราคามีความล่าช้าเมื่อเทียบกับกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น

กราฟแท่งมีลักษณะคล้ายกันกับแท่งเทียน ความแตกต่างเดียวก็คือ กราฟแท่งแสดงผลเป็นเส้นเรียบ ๆ แทนกราฟแบบลำตัวที่มีสีทึบ ดังนั้น กราฟแท่งจึงเข้าใจยากกว่าสำหรับมือใหม่ กราฟแท่งเทียนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณยังไม่ชินกับการอ่านกราฟแท่ง

คำแนะนำ: ผู้เริ่มต้นอาจเริ่มจากกราฟพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มพื้นฐาน และค่อย ๆ เปลี่ยนไปวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนสำหรับการวิเคราะห์ที่ละเอียดมากขึ้น

กรอบเวลา

กรอบเวลาแสดงถึงระยะเวลาของแต่ละแท่งหรือแท่งเทียนในกราฟ กรอบเวลา 5 นาที (5m) หมายความว่า แต่ละจุดแสดงข้อมูลการเทรดในเวลา 5 นาที แถบในการเปลี่ยนกรอบเวลาอยู่ในหน้าต่างกราฟเช่นกัน

ความยาวนานของกรอบเวลาจะบ่งบอกว่าการเทรดของคุณน่าจะกินเวลานานเท่าไหร่

- กรอบเวลาที่สั้นกว่า (5s ถึง 30m) มีประโยชน์สำหรับการเทรดระยะสั้นหรือการเทรดแบบ "scalp" ที่คุณมุ่งหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วินาทีหรือนาที การเทรดเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องด้วยความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเทรด FTT หลายคนจะให้ความสำคัญกับกรอบเวลาเหล่านี้เป็นหลัก

- กรอบเวลาระยะกลาง (1h ถึง 4h) เหมาะสำหรับเดย์เทรด กรอบเวลาเหล่านี้ให้ความสมดุลระหว่างการมองเห็นแนวโน้มในภาพกว้างกว่า และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของราคา ดังนั้น คุณจะได้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดี

- กรอบเวลาที่นานขึ้น (1d, 7d, 1M) ได้ผลดีที่สุดในการเทรดแบบระยะหรือการเทรดแบบ "swing" และ "position" ที่คุณมุ่งหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของราคาในรอบหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในโหมดการเทรด Forex นอกจากนี้ กรอบเวลาเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดโดยรวม และลดความเสี่ยงของการตัดสินใจอย่างไม่รอบคอบ

คำแนะนำ: เริ่มต้นจากกรอบเวลาระยะกลางเพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มโดยรวม ก่อนที่จะเข้าเทรดในกรอบเวลาที่สั้นและมีความเสี่ยงมากกว่า ตรวจเช็กกรอบเวลาที่ใหญ่กว่ากรอบเวลาที่คุณต้องการเทรดหนึ่งหรือสองระดับในทุกการเทรด วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพกว้างมากขึ้นของการเคลื่อนไหวของราคา เช่น หากมีแนวโน้มขาขึ้นปรากฏบนกราฟ 30m แต่แนวโน้มขาลงใน 1h จะยิ่งมีความเป็นไปได้ที่ในที่สุดแล้ว ราคาจะลดลงตามแนวโน้มในภาพรวม

ถัดไป

ในบทเรียนถัดไป คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้ม