การเทรดตามข่าว

หนึ่งในบทเรียนของเราก่อนหน้านี้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเภทต่าง ๆ ของสินทรัพย์ที่มีไว้ให้เทรด เราได้กล่าวไว้ว่าราคามักจะมีการตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจและการเมือง

ข่าวบางอย่างเป็นเรื่องที่ไม่ทันคาดคิด เช่น ข่าวการระบาดของโรคโควิด 19 ผลของข่าวด่วนระดับโลกนี้ทำให้ดัชนี S&P 500 อเมริกาขาดทุนมากกว่าหนึ่งในสามของมูลค่าหุ้นในวันที่ 23 มีนาคม 2020 เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถเตรียมตัวรับมือเหตุการณ์เช่นนี้ แต่คุณสามารถตามทันข่าวนี้ได้และใช้ Stop Loss เมื่อเทรดในโหมด Forex หากทำเช่นนี้ การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของราคาแบบไม่ทันตั้งตัวครั้งนี้จะไม่ทำให้คุณเสียเงินไปทั้งหมด

สำหรับข่าวอื่น ๆ ที่มีความฉับพลันน้อยกว่านี้ คุณยังสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้จากข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหลักของโลก

ข่าวสารทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ การเติบโตของการว่าจ้างและเศรษฐกิจ ข่าวสารเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงินของประเทศที่มีเกี่ยวข้องและดัชนีหุ้นด้วย นอกจากนี้ พลวัตของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ยูโรโซน สามารถสร้างอิทธิพลต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และราคาสินค้าดังกล่าวได้

เคล็ดลับ #1: ยิ่งเศรษฐกิจดีมากเพียงใด สกุลเงินและดัชนีหุ้นก็จะดีตามนั้น ยกตัวอย่าง ยอดค้าปลีกของแคนาดาที่สูงขึ้นส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์แคนาดา (CAD) ในขณะที่การจ้างงานที่ลดลงในออสเตรเลียนั้นไม่เป็นผลดีต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)

จากภาพด้านบน คุณสามารถเห็นผลกระทบจากการเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อ Basic Dollar Index ของสหรัฐอเมริกา

เคล็ดลับ #2: นักเทรดมักพูดสุภาษิตที่ว่า "ซื้อข่าวลือ ขายข่าวจริง" หากนักเทรดหรือนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา พวกเขาจะซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐล่วงหน้าก่อนเหตุการณ์จะเกิด จากนั้น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่มอัตราดอกเบี้ย นักเทรดก็ปิดคำสั่งเทรดได้ ซึ่งหมายถึงการขาย USD นั่นเอง สกุลเงิน USD ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น "จากข่าวลือ" อาจจะตกลง "ตามข่าว"

เพราะเหตุนี้เอง การอ่านข่าวสารและตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาก่อนจะมีการเผยแพร่ข่าวจึงเป็นงานที่คุ้มค่า หากอินดิเคเตอร์เพิ่มขึ้นตามคาด แต่ราคาสกุลเงินได้เพิ่มขึ้นแล้ว ศักยภาพในการเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคตจะต่ำลง แม้ว่าอินดิเคเตอร์จะยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม ทางตรงกันข้ามก็เป็นจริงเช่นกัน นั่นคือ หากทุกคนคาดว่าอินดิเคเตอร์จะขึ้น แต่มันกลับตกลง สกุลเงินอาจลดลงอย่างมากได้

กิจกรรมอื่น ๆ ที่มีการกำหนดช่วงเวลาเผยแพร่ก็คือ การรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาจะมี Earnings Season ในช่วงกึ่งกลางของทุก ๆ ไตรมาส ในระหว่างช่วงเวลานี้ เหล่าบริษัทจะเผยแพร่รายได้ต่อหุ้นและรายรับ ทำให้นักลงทุนมีโอกาสรับรู้ได้ว่าธุรกิจของพวกเขากำลังขยายตัวหรือกำลังหดตัว

ตรรกะสำหรับการเทรดตามรายงานเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับการเทรดตามอินดิเคเตอร์เศรษฐกิจ นั่นคือ หากผลออกมาดีราคาก็มีแนวโน้มว่าจะขึ้น และในทางกลับกัน การคำนึงถึงความคาดหวังของตลาดก็อาจจำเป็นด้วยเช่นกัน

จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่าหุ้น Nvidia พุ่งขึ้นหลังจากที่มีการเผยแพร่ผลประกอบการของบริษัททำให้เกิดช่องว่างในกราฟราคา

นอกจากรายงานผลประกอบการแล้ว ข่าวต่าง ๆ ทั้งดีและไม่ดีเกี่ยวกับบริษัทต่างมีผลต่อราคาหุ้นบริษัทด้วยกันทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง การประกาศข่าวเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่อาจทำให้หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้น ในขณะที่การจากไปของ CEO อาจทำให้ผู้ค้าตื่นตระหนกและเทขายหุ้นของตนซึ่งทำให้ราคาลดลง

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เรากล่าวมาเป็นกิจกรรมที่นำมาเทรดได้มากที่สุด โปรดทราบว่าเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามและการเลือกตั้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว สามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งกิจกรรมเหล่านี้สามารถสร้างแนวโน้มระยะยาวในคู่สกุลเงินและดัชนีหุ้นได้ ซึ่งควรจับตาดูด้วยเช่นกัน

เคล็กลับในการเทรดตามข่าวสาร

1. คัดกรองข่าวสาร มีข้อมูลพร้อมพาดหัวข่าวและรายละเอียดเยอะแยะมากมายที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และรายการสดทางโทรทัศน์ ให้หาแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือและมุ่งเน้นเสนอข่าวกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเทรด

2. ดูปฏิทินเศรษฐกิจ หากคุณรู้ว่าข่าวไหนที่กำหนดไว้สำหรับสินทรัพย์ที่คุณกำลังเทรด คุณจะเตรียมตัวได้ดีขึ้น จากนั้นคุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะออกจากตลาดไปก่อนในระหว่างที่มีการเผยแพร่ข่าว หรือจะพยายามจับการเคลื่อนไหวของราคาตามข่าวนั้น ๆ

3. วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข่าว ดูแนวโน้มจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันแล้วลองบอกว่าการคาดการณ์ที่ได้จากการวิเคราะห์นั้นแสดงให้เห็นอยู่ในราคาแล้วหรือยัง

4. จัดการอัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงที่จะขาดทุนกับผลตอบแทนที่จะได้รับ ตลาดสามารถแกว่งได้อย่างสุดขั้วในเวลาที่มีข่าวใหญ่ ให้พิจารณาลดขนาดคำสั่งเทรดและใช้คำสั่ง Stop Loss ในช่วงเวลาเช่นนั้น

ถัดไป

ในบทเรียนถัดไป คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาการเทรด